ชนิดย่อยอื่น ๆ ที่เสี่ยงเป็นโรคระบาดทั่ว ของ การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่

ไวรัสไข้หวัดใหญ่มนุษย์ปกติหมายถึงชนิดต่าง ๆ ที่ระบาดอย่างแพร่หลายในหมู่มนุษย์ไวรัสไข้หวัดใหญ่กลุ่ม A ชนิดย่อย ๆ คือ H1N1, H1N2 และ H3N2 เท่านั้นเป็นไวรัสที่รู้จักซึ่งปัจจุบันก็ยังเวียนไปในหมู่มนุษย์อยู่[73]

ความต่างทางพันธุกรรมที่แยกแยะเชื้อออกเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่มนุษย์และไวรัสไข้หวัดใหญ่นกรวมทั้ง

PB2 (อาร์เอ็นเอพอลิเมอเรส)คือต่างโดยกรดอะมิโน (หรือส่วนตกค้าง คือ residue) ที่ตำแหน่ง 627 ของโปรตีนที่เข้ารหัสโดยอาร์เอ็นเอ PB2 โดยก่อนค้นพบไวรัส H5N1 ไวรัสไข้หวัดใหญ่นกทั้งหมดที่รู้จักมีกลูตาเมต (Glu) ที่ตำแหน่ง 627 เทียบกับไวรัสไข้หวัดใหญ่มนุษย์ทั้งหมดที่มีไลซีนในตำแหน่งเดียวกันHA (โปรตีน hemagglutinin)คือ HA ของไวรัสไข้หวัดใหญ่นกจะจับกับหน่วยรับ alpha 2-3 sialic acid receptors เทียบกับของมนุษย์ที่จับกับหน่วยรับ alpha 2-6 sialic acid receptor

"การเปลี่ยนแปลงของยีนประมาณ 52 อย่างแยกแยะสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่นกจากสายพันธุ์ที่ระบาดในหมู่มนุษย์ได้ง่าย ๆ ตามนักวิจัยในไต้หวัน ผู้วิเคราะห์ยีนของไวรัสไข้หวัดใหญ่กลุ่ม A เกินกว่า 400 ชนิด"[74] "การกลายพันธุ์ที่ยีนกี่ตำแหน่งที่ทำให้ไวรัสนกสามารถติดมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ หรือการกลายพันธุ์กี่ตำแหน่งที่ทำให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นสายพันธุ์ก่อโรคระบาดทั่ว นี่พยากรณ์ได้ยาก เราได้ตรวจสอบลำดับยีนจากสายพันธุ์ปี 1918 ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ก่อโรคระบาดทั่วชนิดเดียวที่สามารถผันมาจากสายพันธุ์ของไวรัสนกโดยสิ้นเชิง ในบรรดาตำแหน่งยีนที่สัมพันธ์กับสปีชีส์ต่าง ๆ 52 ตำแหน่ง 16 ตำแหน่งมีส่วนเหลือค้าง (residue) ที่เป็นเครื่องหมายของสายพันธุ์มนุษย์ ที่เหลือมีลักษณะของนก ผลนี้สนับสนุนสมมติฐานว่า ไวรัสก่อโรคระบาดทั่วปี 1918 สัมพันธ์กับไวรัสไข้หวัดใหญ่กลุ่ม A ของนกยิ่งกว่ากับไวรัสไข้หวัดใหญ่ของมนุษย์"[75]

ไข้หวัดใหญ่นก H5N1 ที่รุนแรง (highly pathogenic) ทำให้มนุษย์ผู้ติดครึ่งหนึ่งเสียชีวิตในกรณีหนึ่ง เด็กชายที่ติดเชื้อ H5N1 แค่ท้องร่วงแล้วก็เกิดโคม่าอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการทางระบบหายใจหรืออาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ใด ๆ เลย[76]

ชนิดย่อยของไวรัสไข้หวัดใหญ่กลุ่ม A ที่ยืนยันว่ามีในมนุษย์ เรียงตามจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์โรคระบาดทั่ว คือ

  • H1N1 เป็นเหตุของไข้หวัดใหญ่สเปน และการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (H1N1 ชนิดใหม่)
  • H2N2 เป็นเหตุแห่งไข้หวัดใหญ่เอเชียปี 1956-1958
  • H3N2 เป็นเหตุแห่งไข้หวัดใหญ่ฮ่องกงปี 1968-1969
  • H5N1 เป็นไข้หวัดใหญ่นก เป็นโรคประจำในนก
  • H7N7 มีศักยะภาพการแพร่ไปจากสัตว์สู่มนุษย์ที่พิเศษ คือสามารถติดมนุษย์ นก สุกร แมวน้ำ ม้า และแม้หนูในห้องทดลอง จึงอาจกลายเป็นโรคระบาดทั่ว
  • H1N2 ปัจจุบันทำให้เกิดโรคประจำในมนุษย์และสุกร
  • H9N2, H7N2, H7N3, H10N7
H1N1
ภาพจากแหล่งข้อมูลภายนอก
ภาพจุลทรรศน์ของไวรัส H1N1
ภาพจุลทรรศน์ของไวรัส H1N1

H1N1 ปัจจุบันเป็นโรคประจำของทั้งมนุษย์และสุกรรูปแปรของ H1N1 อย่างหนึ่งเป็นเหตุของเหตุการณ์ไข้หวัดใหญ่สเปนระบาดทั่วที่ทำให้มนุษย์ 50-100 ล้านคนเสียชีวิตทั่วโลกในระหว่างปี 1918-1919[77]มีข้อโต้แย้งที่เกิดในเดือนตุลาคม 2005 หลังจากจีโนมของ H1N1 ได้ตีพิมพ์ในวารสารไซเอินซ์เพราะบางพวกกลัวว่า ข้อมูลนี้สามารถใช้ในการก่อการร้ายทางชีวภาพ[ต้องการอ้างอิง]

เมื่อเขาเทียบไวรัสปี 1918 กับไวรัสไข้หวัดใหญ่มนุษย์ทุกวันนี้

ดร. ทอเบ็นเบอร์เกอร์ได้สังเกตว่า มันมีกรดอะมิโน 25-30 อย่างที่เปลี่ยนไปในบรรดากรดอะมิโน 4,400 ชนิดของไวรัสการเปลี่ยนแปลงไม่กี่อย่างเช่นนี้ ได้เปลี่ยนไวรัสนกให้กลายเป็นโรคฆ่ามนุษย์ที่สามารถระบาดจากบุคคลหนึ่งสู่อีกบุคคลหนึ่ง— บทความจากหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์[78]

ในกลางเดือนเมษายน 2009 รูปแปรของ H1N1 ได้ปรากฏในประเทศเม็กซิโก โดยศูนย์อยู่ที่กรุงเม็กซิโกซิตีเมื่อถึงวันที่ 26 เชื้อก็ได้ระบาดไปอย่างกว้างขวางแล้วโดยมีรายงานกรณีในแคนาดา สหรัฐ นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน และอิสราเอลวันที่ 29 เมษายน องค์การอนามัยโลกก็ได้ปรับระยะการเกิดโรคระบาดทั่วนี้เป็นระยะ 5[79]วันที่ 11 มิถุนายน 2009 องค์การอนามัยโลกก็ได้ปรับระยะการเกิดโรคระบาดทั่วนี้ไปเป็นระยะ 6 ซึ่งหมายความว่าโรคได้กลายเป็นโรคระบาดทั่วแล้ว โดยมีกรณีที่ยืนยันเกือบ 3 หมื่นรายทั่วโลก[80]วันที่ 13 พฤศจิกายน 2009 รายงานอัปเดตทั่วโลกขององค์การอนามัยโลกแจ้งว่า "ประเทศรวมอาณาเขตหรือชุมชน 206 แห่งได้รายงานอย่างเป็นทางการว่ามีกรณีคนติดไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่ว H1N1 ที่ยืนยันโดยห้องปฏิบัติการ 503,536 รายรวมผู้เสียชีวิต 6,250 ราย"[81]

H2N2

ไข้หวัดใหญ่เอเชียเป็นการระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่นกชนิด H2N2 ที่เกิดในประเทศจีนปี 1957 โดยระบาดไปทั่วโลกในปีเดียวกันกับที่ได้พัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขึ้น แล้วคงยืนจนถึงปี 1958 เป็นเหตุให้คนเสียชีวิตระหว่าง 1-4 ล้านคน

H3N2

เชื้อ H3N2 ปัจจุบันเป็นโรคประจำของทั้งมนุษย์และสุกรวิวัฒนาการมาจากเชื้อ H2N2 ผ่านกระบวนการเลื่อนแอนติเจน (antigenic shift) และเป็นเหตุของเหตุการณ์ไข้หวัดใหญ่ฮ่องกงระบาดทั่วในปี 1968-1969 ที่ทำให้คนเสียชีวิต 750,000 คน[82]"ไข้หวัดใหญ่ A H3N2 แบบรุนแรง เกิดอาการเร็ว (early-onset) ได้ถูกพาดหัวข่าวเมื่อเอาชีวิตของเด็กหลายคนในสหรัฐปลายปี 2003"[83]

ไข้หวัดใหญ่ประจำปีสายเด่นเมื่อเดือนมกราคม 2006 ก็คือสายพันธุ์ H3N2การดื้อยาต้านไวรัสมาตรฐานคือ amantadine และ rimantadine ของ H3N2 ได้เพิ่มขึ้นจาก 1% ในปี 1994 กลายเป็น 12% ในปี 2003 จนถึง 91% ในปี 2005[84]

ไวรัสไข้หวัดใหญ่มนุษย์ปัจจุบันสายพันธุ์ H3N2 ได้กลายเป็นโรคประจำในสุกรในจีนใต้และสามารถเข้าชุดยีนใหม่ (reassortment) กับไวรัสนกคือ H5N1 ในสัตว์ถูกเบียนระหว่างกลางนี้[85]

H7N7

เชื้อ H7N7 มีศักยะภาพการแพร่ไปจากสัตว์สู่มนุษย์ที่พิเศษ คือสามารถติดมนุษย์ นก สุกร แมวน้ำ ม้า และแม้หนูในห้องทดลอง จึงอาจกลายเป็นโรคระบาดทั่วในปี 2003 คนเนเธอร์แลนด์ 89 คนได้ยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ H7N7 หลังจากเกิดโรคระบาดในเป็ดไก่ของฟารม์หลายแห่งมีผู้เสียชีวิต 1 คน

H1N2

เชื้อ H1N2 ปัจจุบันเป็นโรคประจำของทั้งมนุษย์และสุกรสายพันธุ์ใหม่นี้ดูเหมือนจะเกิดจากกระบวนการเข้าชุดยีนใหม่ (reassortment) ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดย่อย H1N1 และ H3N2 ที่ยังหมุนเวียนเป็นกันอยู่เพราะโปรตีน hemagglutinin ของไวรัส H1N2 คล้ายกับของ H1N1 และโปรตีน neuraminidase เหมือนกับของ H3N2

ใกล้เคียง

การระบาดทั่วของโควิด-19 การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย การระบาดทั่วของโควิด-19 เรียงตามประเทศและดินแดน การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศทาจิกิสถาน การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศซาอุดีอาระเบีย การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศแทนซาเนีย การระบาดทั่วของโควิด-19 ในทวีปยุโรป การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศบังกลาเทศ

แหล่งที่มา

WikiPedia: การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ http://www.eletrica.ufsj.edu.br/~nepomuceno/refere... http://www.ctv.ca/servlet/ArticleNews/story/CTVNew... http://www.france24.com/en/20090917-france-donate-... http://www.horizonpress.com/avir http://www.influenzareport.com/ir/ai.htm http://archive.jsonline.com/news/usandworld/437051... http://www.merck.com/mmhe/sec17/ch198/ch198c.html http://www.themalaysianinsider.com/index.php/world... http://www.timberlanebooks.com/cruel_wind_desc.sht... http://www.nap.edu/books/0309095042/html/115.html